ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเจ้า chapter 6 [xx%]


'ได้ไง?'

คาเลียคิดอย่างล่องลอย มองผ่านหน้าต่างไปยังร่างของไซม่อน

'ลูกของไซม่อนในท้องของข้า'

เอาแบบจริงจังนะ มันเกิดขึ้นได้ไง?

วันนั้น?

'.....เมาเหรอ?'

ไม่ ไม่ใช่เพราะแอลกอฮอล์เลย

มีวันอื่นอีกตั้งหลายวันที่เราทั้งคู่ดื่มด้วยกัน....

'ถ้างั้น เพราะหนังสือของเดเร็ค?'

พอคิดดังนั้น เธอยิ้มขำแล้วส่ายหัวเบาๆ

เธอเป็นยอดนักดาบ แต่กลับไปโทษหนังสือธรรมดาๆ ข้ออ้างโง่เง่าซะจริง

ไม่ใช่เพราะแอลกอฮอล์หรือหนังสือหรอก

มันอยู่ที่ตัวของเธอเอง

คาเลียในวันนั้น

"....ข้าจะโทษเจ้าแล้วกันนะ"

คาเลียก็ทำหน้าเจื่อนๆ เล็กน้อย เธอถูมือกับหน้าผากแล้วนึกย้อนกลับไป


--------------------------------------------------



มันเป็นวันที่มีงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ

เจ็ดปีที่ผ่านมา จักรวรรดิสู้รบในศึกสงครามเหลือคณานับและได้รับชัยชนะมามากมาย

บทบาทของคาเลียในประวัติศาตร์ชัยชนะเป็นที่โอฬาร และเพราะเธอ จักรวรรดิได้เข้าสู่จุดมั่นคง

การรบที่ทาฮาริก็เช่นกัน มันเกิดขึ้นเพราะกลุ่มโจรสลัดต่างถิ่นที่โง่เขลาบุกปล้นบนเกาะของจักรวรรดิโดยไร้ซึ่งความกลัว เป็นสงครามแรกในรอบหนึ่งปีตั้งแต่สงครามเจ็ดปีจบลง

และเหมือนเช่นเคย จักรพวรรดิเปิดพระราชวังเพื่อเธอและอนุญาตให้จัดงานเลี้ยง เป็นวันที่เธอค่อนข้างอารมณ์เฟื่องฟู

คาเลียเมามาย เธอยกจอกแก้วเมื่อใดก็ตามที่ผู้อื่นยกด้วย

ไซม่อนที่มองดูจากไกลๆ ดึงเธอออกมาจากวง ขณะที่งานกำลังคึกคัก

"ทำไมวันนี้เจ้าถึงดื่มเยอะนัก? พอดีๆหน่อยน่าคาเลีย"

"อืม ก็ข้าอยากนี่นา ข้าอารมณ์ดี"

พูดจบคาเลียก็ปล่อยหัวเราะ

เพราะท่าทางของไซม่อนดูบูดบึ้งตอนลากเธอออกมา

อะไรบางอย่างทำให้เมื่อเธอยิ้มแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น

เขามองเธอเงียบๆ กำหมัดแน่น หันหน้าไปทางอื่นแล้วพึมพำ

"ดื่มซะ" น้ำเสียงขัดแย้งกันในตัวเอง

คาเลียก่นด่าที่เขาทำตัวยั่วเย้าตอนเธอเมา

"แม่งเอ้ยไซม่อน เจ้ากำลังดูหมิ่นเสนาบดีใหญ่อยู่นะ"

"หุบปากคาเลีย ข้าก็ใหญ่ไม่แพ้เจ้านั่นแหละ"

ไซม่อนพูดอย่างหยาบกระด้าง แต่ไม่ใช่กับสัมผัสจากเขา

มือของไซม่อนกำลังแงะนิ้วของเธอที่ถือจอกแก้ว เป็นมือที่ดูสะอาดและซีดผิดปกติ

เธอมองเล็บของเขาที่ประณีตและตัดอย่างเรียบร้อยแล้วยิ้มเหยียด

เพื่อนที่ไม่อาจเข้าใจได้

ถึงเขาจะดูเป็นมิตรแต่ก็เยือกเย็นในเรื่องบางเรื่อง

เขาโกรธบ่อยแต่กลับหัวเราะไร้สาระ

"แปลกคนนะ"

คาเลียยกซดแก้วที่ถือแล้วดื่มที่เขาส่งให้นั่น จากนั้นก็เดินถือแก้วเปล่า

ไซม่อนฉวยแก้วในมือของเธอแล้วพูด

"ถ้าข้าแปลก เจ้าก็ตัวยุ่ง"

เหมือนไซม่อนจะขี้เกียจถือ เขาวางจอกแก้วบนฝ่ามือแล้วใช้มานาบดขยี้มันให้เล็กกว่าฝุ่นก่อนจะโยนทิ้ง

คาเลียไม่อยากจะเชื่อว่าเขาใช้ทักษะขั้นสูงเพียงเพื่อกำจัดจอกแก้วธรรมดาๆ......สิ้นเปลืองฝีมือมาก

เธอส่ายหัวอ่อนปวกเปียกแล้วหันมองมองสวนด้วยความรู้สึกพองใจ

ทันใดนั้น ไซม่อนคว้าข้อมือของเธอแล้วเริ่มพูด

เขาพูดแปลกไปพร้อมกับสัมผัสที่น่ารำคาญน้อยๆ 

"ตามมา ข้ามีบางอย่างให้เจ้า"

"บางอย่างให้ข้า?"

"วันนี้วันเกิดเจ้าไง"

วันเกิดงั้นเหรอ?

'......เออใช่ วันเกิดข้า!'

คาเลียหัวเราะจนเห็นลักยิ้มเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาพูด

เอาเข้าชัดก็ไม่ใช่วันเกิดจริงๆ ของเธอหรอก มันเป็นวันที่เธอเข้ามาอยู่ในอำนาจการดูแลของดยุกเทอร์รอนในตอนอายุ 6 ขวบ

ไซม่อนยืนกรานที่จะเรียกมันว่าวันเกิด

กว่า 20 ปีที่เขาดูแลและเลี้ยงฉลองวันเกิดจอมปลอมที่ไม่มีใครล่วงรู้

'จริงใจอย่างสุดซึ้งกับเรื่องแปลกๆ ซะจริง'

ไซม่อนเข้ามาในหอคอยพร้อมๆ กับเธอ

หอคอยตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังหลัก




TBC--------------------------------------------------

[xx%]
ยุ่งมากช่วงนี้


ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ถ้าทำให้พี่ชายของฉันเชื่องมากไปแล้วล่ะก็!

ploysira : แหมๆ ดูจะเป็นแค่หมีสินะ ทรราชย์อะไรกัน555

เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเจ้า chapter 5

"ฝ่าบาท เสนาบดีคาเลียพะยะค่ะ" เสียงขององครักษ์ดังสั่นประตู แม้ว่าเธอไม่ได้กระตุ้นโสตประสาทมาก แต่หูที่ไวของเธอก็รับได้ถึงการเคลื่อนไหวของเจ้าชายรัชทายาท '......ท่านต้องอยู่ตรงนั้นแน่ๆ' เธอได้ยินเสียงเก้าอี้ ไม่นานนักก็มีเสียงคนดิ่งลงไป หลังจากนั้นก็เหลือเพียงความเงียบ ในความนิ่งงันนั้น คาเลียผายอกยกมือทำความเคารพ เธอหายใจเข้าเต็มปอด เธอไม่ได้กังวล แต่วันนี้มันต่างออกไปเมื่อเทียบกับวันอื่นๆ การเกษียณ ถึงที่ผ่านมาจะไม่นานมากแต่เธอก็ได้กลายเป็นอัศวินและต่อสู้เพื่อชีวิตของเธอ กี่ครั้งแล้วที่เธอกระโดดเข้าไปในความอันตรายในฐานะที่เป็นองครักษ์ของเจ้าชายก่อนที่สงครามจะเกิดขึ้น? ตอนนั้นเธอยังเด็กนัก เธอไม่ได้เหนื่อยล้า แต่ถ้าจำเป็นก็จะวางมือ ที่นี่ไม่ต้องมีทหารเช่นเธออีกแล้ว จริงๆ แบบนี้ก็ทำให้คาเลียเบาใจลงมาก เธอถือดาบเพราะมีบางอย่างที่ต้องปกป้อง แต่เลือดที่หลั่งรินเพื่อให้ได้มาซึ่งการนั้นไม่ใช่แค่ของเธอผู้เดียว 'ช่วงเวลาโหดร้ายที่เราต้องห้ำหั่นผู้อื่นในนามของสงคราม น้ำตา เสียงกรีดร้อง และสายตาเคียดแค้น&#