คาเลียลูบคาง ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"แต่....เขาก็เป็นพ่อเด็กนะ บอกดีมั้ย?"
รอยย่นปรากฏระหว่างคิ้วของเธอ
ไซม่อนเป็นจอมเวทและดยุกแห่งจักรวรรดิ
ชนชั้นสูงอย่างเขาจะ...ไม่สิ ครอบครัวเขาจะยอมรับลูกนอกสมรสงั้นเหรอ?
ไซม่อนไม่ใช่คนที่คลั่งพิธีรีตองแบบขุนนางอะไรหรอก
เธอที่เติบโตมากับเขารู้เรื่องนั้นดี
แต่สิ่งที่กวนใจคาเลียคืออาการของพวกขุนนางนั่นต่างหาก
รอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรคือกระจกเย็นเฉียบที่แบ่งแยกคนอื่นจากเขา
พวกเขาจะยอมให้ลูกนอกสมรสเป็นทายาทเพียงคนเดียวของดยุคเหรอ?
ลูกในท้องของคาเลียผู้ดิ้นรนต่อสู้
'.....ไซม่อน.....ความภักดี......เป็นไปไม่ได้หรอกคาเลีย'
เสียงเล็กๆ ในใจทำให้เธอเงยหน้าขึ้น
"ไม่ ไม่มีทาง"
......ไม่ได้หรอก
เธอไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่แต่มีบางอย่างขัดแย้งอย่างรุนแรงในใจของเธอ
คาเลียพึมพำอย่างเป็นกังวลบนที่นั่ง
ครอบครัวของไซม่อนน่ะเป็นปัญหาก็จริง แต่หลักๆ แล้วต้องคิดถึงปฏิกิริยาของเขา
เขาชอบเด็กรึปล่าวนะ?
เธอส่ายหัวเป็นการตอบคำถาม
เขาเกลียดมนุษย์ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับเด็กทารก
".....อย่าบอกนะว่าไซม่อนจะให้เอาออก"
เธอเต็มใจที่จะเป็นแม่คน และนำพาความสุขกลับคืนสู่ใบโลกนี้ แต่ไซม่อนไม่ใช่
เขาอาจจะดีใจก็ได้
เธอคิดว่าลูกจะนำมาซึ่งความสุขและความยินดี
'ข้าจะไม่เรียกร้องความรับผิดชอบหรือยัดเยียดความเป็นพ่อให้เขา เด็กจะได้ไม่ถูกเกลียดตั้งแต่เกิด'
เธอมั่งคั่งจากบำเหน็จตอบแทนในสงคราม ทั้งยังมีพละกำลังปกป้องลูกน้อย
อนาคตนั้นไม่แน่นอนแต่มั่นคงพอที่จะปฏิญาณความรักอันเต็มเปี่ยมที่มีต่อลูกของเธอ
ใช่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องบังคับไซม่อนให้แต่งงานเป็นพ่อของเด็ก
'......แต่งกับไซม่อน!'
ตรงข้ามกัน แปลกมากที่ร่างของเธอสั่นเครือ
ในสนามรบ ทั้งสองเป็นเพื่อนตายและเป็นพี่น้องกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ยังเป็นเพื่อนดื่มบ้างนานๆ ครั้ง เพื่อนที่ดื่มและพูดคุยด้วยกันทั้งคืน
'นั่นแหละ....'
แต่ถึงเธอจะบอกว่าไม่มีความโลภหรือความต้องการอะไรจากเขา เขาก็คงไม่พอใจกับการมีอยู่ของเด็กคนนี้
มันคงมากพอแล้วสำหรับตำแหน่งที่สูงส่งและภาระความรับผิดชอบอันหนักอึ้งบนบ่าทั้งสองข้างของเขา
'อีกอย่าง ล่าสุดที่เจอกัน ไซม่อนก็เผลอพูดเกี่ยวกับแผนการแต่งงานเร็วๆ นี้ด้วย ถ้าเขาคิดจะแต่งงานก็คงมีผู้หญิงในใจอยู่สักพักแล้วล่ะนะ'
นี่ยิ่งแล้วใหญ่กับความคิดจะไปขู่เข็ญไซม่อนที่กำลังจะแต่งงาน
คงจะขัดชีวิตคู่ของพวกเขาเปล่าๆ
".....งั้น ข้าคงจะไม่บอกไซม่อน"
คาเลียทำหน้าบู้บี้พร้อมลูบหน้าท้องเหมือนเป็นโล่กำบังให้ลูก
เธอไม่อยากให้ลูกของเธอเป็นตัวปัญหา
ถ้ามาบอกให้เอาเด็กออกไปด้วยความคิดหรือสีหน้าไม่พอใจของไซม่อนจริงๆ นั้น......
'ตัดเขาออกเป็นกี่ส่วนดีนะ?'
มันคงยากที่จะเอาชนะไซม่อนผู้ปราดเปรื่องและมีพลังเวทที่ทรงพลัง แต่ถ้าเตรียมตัวมานานพอ ก็ทำทีละสเต็ปได้....
เมื่อเธอคิดวิธีฆ่าเขาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เธอก็ต้องส่ายหัว
สัญชาติญาณในการปกป้องลูกของเธอเริ่มไม่สมเหตุสมผล
แค่คิดว่า 'เขาอาจบังคับให้เอาเด็กออก' เธอก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อจากนั้นยังไงแล้ว
นั่นคือเพื่อน พี่น้อง และสหายร่วมรบในคนๆ เดียว
ถ้าเธอทิ้งทุกอย่างไว้แบบนี้ก็คงจะยุ่งเหยิงพอกัน
'ข้าต้องดูแลลูกน้อยให้ปลอดภัยและแก้ปัญหาไซม่อนให้จบลงด้วยดี'
คาเลียคิดและกังวลอย่างไม่รู้จบ
หลังกังวลมาพอแล้ว เธอก็มองขึ้นไปด้วยใบหน้าที่แน่วแน่ กระทั่งแสงอาทิตย์นอกหน้าต่างแปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอันพัน
"เหลือทางเดียวเท่านั้น"
เธอยืนตรงหน้าเครื่องแบบสีแดงที่ถูกแขวนอย่างเรียบร้อย
เธอลูบไล้มันแล้วพึมพำเบาๆ
"ข้าว่าถึงเวลาถอนตัวแล้วล่ะ"
เป็นสัมผัสแห่งความผูกพัน แต่ก็ไม่มีอะไรที่ต้องการอีกแล้ว
ในจักรวรรดิโรฮัส คาเลีย แทคสเก็ท คือตำนานที่ยังมีชีวิต
จุดเริิ่มต้นเล็กๆ ใน 6 ขวบอันไร้เดียงสาที่ได้ช่วยเหลือลูกชายดยุกที่ถูกลักพาตัวโดยแก็งข้างถนน
เธอผ่านการทดสอบตำแหน่งอัศวินอย่างเป็นทางการขณะอายุ 15 ปีด้วยคะแนนสูงสุด และด้วยวัยเพียง 17 ปี เธอดั้นด้นฝึกฝนเป็นยอดนักดาบ
ความสามารถขณะอายุได้ 19 ปีของเธอเป็นที่โจษจันเกือบเข้าขั้นยอดฝีมือ และเธอได้รับหน้าที่ให้การคุ้มครององค์ชายรัชทายาท
คาเลีย แทคสเก็ท ถือเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ไม่มีใครสามารถเอาชนะเธอได้แม้จะมีรูปร่างที่ใหญ่กว่าก็ตาม
เธอคือคนเก่งหาตัวจับยากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในหลายชั่วอายุคน
แม้แต่เธอยังฉงนในตัวตนของเธอเอง
เธอกำและแบฝ่ามือของตัวเองอย่างเป็นนิสัย ยากที่จะหาว่าตรงไหนเคยเป็นรอยแผล
เธอคิดว่าคงไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ก็ฉายแววความกังวลอยู่ในใจ
ร่างของคาเลียยืนสง่าหน้ากระจก เธอค่อยๆ กวาดสายตามองเครื่องแบบที่พอดีตัวกับเธออย่างประณีต แต่กระนั้นก็ยังดูสะโอดสะอง
มันเป็นของล้ำค่าของเธอที่ไซม่อน จอมเวทย์ที่รักยิ่งของจักรวรรดิ ตัดมันขึ้นด้วยตัวเขาเอง
คาเลียคิดกระดุมแต่ละเม็ดอย่างบรรจง ก่อนมองกระดุมเหล่านั้นที่ปลายนิ้วด้วยมุมมองที่แตกต่างออกไป
มันไม่ได้ถูกเคลือบด้วยสีทอง แต่มันคือกระดุมที่ทำจากทองอยู่แล้วทั้งเม็ด
ทำไมเขาถึงเอาทองมาทำกระดุมอย่างไร้ประโยชน์แบบนี้?
'ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าทองคำบริสุทธิ์ทำให้ใช้เวทย์เก็บรักษาได้ง่ายขึ้น? เมื่อไหร่สมองจะเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกล้ามเนื้อของเจ้าบ้างนะคาเลีย? นี่ครั้งที่สามสิบแล้ว เอ๊ะ ทำไมจำไม่ได้สักที? .....อ่า! ล้อกันเล่นรึปล่าว?'
'.....อ่าใช่ ทำยังกับข้าเป็นคนโง่'
เสียงของไซม่อนมาพร้อมกับภาพรอยยิ้มเหยียดหยาม
ไม่เข้าใจเลยว่าข้าไปนอนกับเพื่อนอย่างเขาได้ยังไง
แล้วก็เด็กในท้อง
'นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย'
คาเลียยิ้มใจลอยและพิศมองเครื่องแบบตัวเองในกระจก
เสื้อส่วนบนรัดช่วงเอว ผ้าคลุมสีแดงเด่นชัด และกางเกงหนังสีดำแนบขา
ทุกอย่างล้วนไม่มีที่ติ
คาเลียหันมองท้องฟ้านอกหน้าต่างแล้วใช้มือปัดผ้าคลุม
ท้องฟ้าในตอนบ่ายร่มเย็นจนมีคำว่า 'สมบูรณ์แบบ' เข้ามาในใจของเธอ
'เงียบสงบดีจัง'
อืม บางทีเมื่อสงคราม 7 ปีสิ้นสุดลง และทุกอย่างก็กลับสู่ความสงบ คงจะถึงเวลาที่ 'วีรสตรีสงคราม' จะหายไปสักที
คาเลียออกจากห้องด้วยรอยยิ้มพึงใจ
แตะ แตะ
'ฮัมมิ่ง' คาเลียได้ยินเสียงฝีเท้าจากชั้นบน เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเจ้าของเสียงคือใคร เธอก็เด้งตัวอย่างรวดเร็ว
และเป็นอย่างที่คิดไว้ เป็นฮัมมิ่งที่เดินลงบันไดมาจากชั้นบน
เขาเยื้องย่างอย่างไม่รีบร้อน แต่ละก้าวเต็มไปด้วยความรู้สึกเหมือนสัตว์ป่า
เมื่อมองเข้าไปนัยน์ตาสีน้ำตาลของฮัมมิ่ง ก็มักจะเห็นถึงแววตาส่องประกายความริษยา
'คุณพระช่วย! ท่านใส่เครื่องแบบงั้นรึ?'
ผู้บัญชาการอัศวินหน่วยราชสีห์สีชาด!
จวนเจียนจะปีหนึ่งแล้วตั้งแต่สงครามได้สิ้นสุดลง
หลังจากการประกาศจบสงคราม คาเลียก็ไม่ค่อยออกไปข้างนอกในชุดเครื่องแบบเลย
เจ็ดเดือนครั้งได้ล่ะมั้งตั้งแต่ฮัมมิ่งมาเป็นผู้รับใช้ของเธอ***
ฮัมมิ่งมองคาเลียอย่างละสายตาไม่ได้ เธอในชุดเครื่องแบบกำลังย่างกรายลงจากบนบันไดเวียนอย่างสงบนิ่ง
สีแดงระเรื่อแต่งแต้มแก้มนวลเนียนราวกับน้ำนม
'บ้าไปแล้ว รูปร่างที่ดูดีที่สุดในโลกนี้....'
ขาเรียวยาวเหยียดออกอย่างสง่าเผย กล้ามเนื้อที่แบนราบดูมั่นคงแข็งแรง มีเสน่ห์ภูมิฐานน่าดึงดูดไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ตาม
ไซเรนแห่งท้องทะเลผู้มีผมสีทองสว่าง ผิวขาวบริสุทธิ์ และริมฝีปากสีแดง
เป็นไปได้มั้ยที่จะสาธยายความแข็งแกร่งของทหารและรัศมีหวานฉ่ำชวนให้ผู้คนหิวโหย
'........แต่ที่สุดก็คงจะเป็นตอนถืบดาบ ดูจริงจังมาก!'
ในขณะเดียวกันเธอก็เป็นแค่นักรบธรรมดา
ด้วยการกวัดแกว่งที่ไม่มีพลาด ท่วงท่าที่ปราณีตและสมบูรณ์แบบ การเคลื่อนไหวที่แม่นยำและรวดเร็วจนมองไม่ทัน
เทพธิดาสงคราม เทพปีศาจแสนสวยในร่างมนุษย์
'ถ้าในรูปข้าดูหล่อแบบนั้นก็ดีสิ คงได้แต่ขอพรเท่านั้นสินะ.....'
สิ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือชุดเครื่องแบบซึ่งถูกออกแบบโดยไซม่อน เทอร์รอน จอมเวทและดยุกแห่งโรฮัส ชุดนั่น 'สวยมาก' กว่าชุดที่ใส่เพื่อยั่วยวนจนตาลายในงานเลี้ยงเสียอีก
มันโดดเด่นขึ้นมาเสมอ
เหมือนเหล้ารัมจากชายที่รู้จักเสน่ห์และเอกลักษณ์ของคาเลีย ราวกับคิดมาอย่างถี่ถ้วนว่าอะไรเหมาะกับเธอ
ฮัมมิ่งเฉลียวใจได้ว่าความรู้สึกที่ไซม่อนมีต่อคาเลียนั้นเป็นอย่างไร แต่เจ้าตัวนั่นแหละที่ไม่ประสีประสา
ก็เป็นเธอซะเองที่ไม่มีไหวพริบเอาซะเลย
ฮัมมิ่งที่เข้าข้างคาเลียเป็นอย่างมากคิดยุบยิบในใจ
เอาเข้าจริง เขาไม่กล้าเข้าไปก้าวก่ายระหว่างจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่และวีรสตรีแห่งสงครามเลย
ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากยุ่งหรือเคารพคาเลียมาก แต่เพราะดยุกแห่งโรฮัสไม่เกี่ยวอะไรกันกับเขาสักนิดต่างหาก
เมื่อคาเลียก้าวถึงพื้นห้อง ฮัมมิ่งก็วิ่งเข้ามาพูด
"ท่านเสนาบดีจะออกไปแล้วเหรอขอรับ? ท่านน่าจะบอกข้า ข้าจะได้เตรียมตัวมาก่อน แต่ไม่เป็นไรขอรับ ข้าพร้อมจะไปกับท่านเสมอ"
คาเลียคิดว่าเขาเป็นนกกระจอกในตอนนั้นเอง
ฮัมมิ่งผิวปาก
เป็นเสียงดังแต่ก็ไม่ได้น่ารำคาญ
มันก็ดีนะถ้าจะฟังตอนกำลังเบื่อ
คาเลียมองไปยังฮัมมิ่งที่ทำตัวน่ารักแล้วพูดขณะมีลมอ่อนๆ โชยมาปะทะกับผมของเธอ
"ข้าอยากออกไปคนเดียว เจ้าอยู่นี่เถอะ"
ร้ายกาจ!
ตอนนั้นเอง หน้าของเขาก็แดงฉ่าขึ้นมาในทันที
ฮัมมิ่งที่หน้าร้อนอย่างช่วยไม่ได้ก้มหน้างุดหัวแล้วโค้งลงด้วยความเขินอาย
สรุปมาค่ำ555 เอาจิงนะ คาเลียถือว่าโหดมากถ้าเทียบกับยุคกลางจริงๆ อายุ 15 ปกติยังเป็น squire อยู่เลย นี่เป็น knight ละ จากที่เราเรียนมา knight จะ 21 มั้ง พูดแบบบ้านๆ คือนางข้ามชั้นมาก ไม่ใช่ด้วยสมองแต่ด้วยร่างกาย เราว่านางไม่ใช่คนละ พ่อแม่นางน่าจะมีเชื้ออะไรสักอย่าง
เรายังหาสปอยอ่านไม่ได้5555 ติ๊ต่างไปงั้น ☼
*****ฮัมมิ่ง ผู้รับใช้ของคาเลีย คือ squire ที่เราพูดถึงข้างบนนะคะ คล้ายๆ เทรนนี่ก่อนเดบิวท์ค่ะ มันไม่มีคำไทย แต่ผู้รับใช้ก็ดูเหมือนคนใช้ในบ้านไป squire จะทำตามคำสั่งของขุนนางในสังกัดค่ะ เราจำไม่ได้ว่าแนวๆ ขัดดาบล้างคอกม้าเป็น squire หรือ page เรียนมานานแล้ว แต่ก่อนเป็นอัศวินก็ได้ตำแหน่งนี้มาก่อนทุกคนค่ะ
ปล. ฮัมมิ่งลูกแมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม่ T///T
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น